9:34น. เป็นเวลาที่พยาบาลแจ้งการบันทึกการจากไปของคุณตาเตียง 36 ต่อหน้าคุณยายที่ยอมรับการจากไปหลังจากคุณตาอายุได้ 90 กว่าปี และผ่านการต่อสู้โรคร้าย การตัดสินใจไม่ยื้อชีวิตอาจจะเป็นการให้คุณตาที่ทนมานานได้พักชัวนิรันด์
คืนก่อนจากไปลูกหลานช่วยกันดูแลผลัดเปลี่ยนเวรกันไป เพราะคนไข้ต้องการดูแลใกล้ชิด 24 ชั่วโมง แต่ละคนมีหน้าที่การงาน แต่คุณยายก็รับหน้าที่ตัวหลักในการดูแล นอนใต้เตียงคุณตาไม่ห่าง ทำหน้าที่ภรรยาจนลมหายใจสุดท้ายของคุณตา
ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีหลากหลายอารมณ์จากคนที่มองจากวงนอกของครอบครัว เศร้าเป็นเรื่องแรก แต่เห็นความสัมพันธ์บางอย่างที่ผูกให้คนมาทำหน้าที่ค่อนข้างหนัก เสียสละเวลาและกำลังกายในการดูแลคนที่ห่วงใย
ส่วนอีกเตียงด้านข้างๆกันก็มีผู้ดูแลมืออาชีพ มาดูแล แต่ไม่ใช่ญาติหากแต่เป็นเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามเวลาพักที่เหมาะสม ผู้ดูแลดูมีทัศนคติของการดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่ดีมาก ลูกมาดูแลช่วงเย็นหลังจากเลิกงานและกลับไปพักผ่อน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้ดูแลดูต่อยามค่ำคืน จนเช้าคุณตาก็ได้รับอนุญาติให้กลับบ้าน ผู้ดูแลก็ทำหน้าที่เก็บของกลับสถานดูแลผู้สูงอายุ ต่อไป
เตียงว่างได้ไม่นานก็มีผู้ป่วย รายใหม่เข้ามา แต่ความน่าสนใจคือ ไม่มีญาติมาดูแลเช่นเตียงอื่นๆ อาจจะยังไม่รู้ หรือไม่มา ก็ไม่ทราบได้ เลยต้องทำหน้าที่ดูแลความต้องการพื้นฐานให้ไปพลาง แต่เนื่องจากได้ห้องพิเศษ เราก้อเลย ดูแลผู้ป่วยคนเดียว ต่อไป ไม่ต้องดูแลสองคน ใจนึงก็เบาใจว่าเราจะไม่เหนื่อย แต่อีกใจก็คิดอยู่ว่าญาติเค้าจะมาดูหรือไม่
ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีผลต่อการเติบโตทางอารมณ์และความรู้สึกเชิงลึกอย่างมาก
ขอบคุณที่ได้มีชีวิตได้เห็นเวลาในช่วงสุดท้ายของชีวิตคน ทำให้ตระหนักว่าต้องใช้ชีวิตให้ระวังเพียงใด